ในโลกปัจจุบัน หากจำเป็นต้องขยายธุรกิจไปตามกาลเวลา เขาต้องติดตามเทรนด์ที่เปลี่ยนแปลงไปและปฏิบัติตามตามต้องการ ยุคดิจิทัลนี้ทำให้ธุรกิจจำเป็นต้องมีสถานะออนไลน์เพื่อหลีกเลี่ยงการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นในตลาด เนื่องจากออนไลน์เป็นแพลตฟอร์มขนาดใหญ่ จึงเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ขายผลิตภัณฑ์/บริการที่จะเติบโต นอกจากนี้ยังเป็นวิธีที่สะดวกมากในการดึงดูดผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าให้มาที่ผลิตภัณฑ์/บริการ
การตลาดผ่านเครื่องมือค้นหา (SEM) และการจ่ายต่อคลิก (PPC) เป็นรูปแบบการตลาดออนไลน์ที่สำคัญอย่างยิ่งสองรูปแบบที่ช่วยให้มั่นใจถึงการมองเห็นเว็บไซต์หรือธุรกิจใด ๆ ในหน้าผลลัพธ์ของเครื่องมือค้นหาหรือ SERP (เช่น Google, Yahoo, Bing เป็นต้น) ซึ่ง ช่วยดึงความสนใจของผู้คนมากขึ้นและด้วยเหตุนี้ลูกค้าที่มีศักยภาพมากขึ้นไปยังเว็บไซต์ของธุรกิจ
SEM เทียบกับ PPC
ความแตกต่างระหว่าง SEM และ PPC คือ SEM รวมเครื่องมือต่างๆ เช่น SEO หรือ Search Engine Optimization ซึ่งใช้คำหลักที่เหมาะสมซึ่งมีการค้นหาบ่อยครั้งในเครื่องมือค้นหาเพื่อปรับแต่งเนื้อหาของเว็บไซต์เพื่อจัดอันดับเว็บไซต์ให้สูงขึ้นใน เสิร์ชเอ็นจิ้นในขณะที่ PPC เป็นรูปแบบโฆษณาที่เจ้าของธุรกิจโฆษณาธุรกิจของตนในเครื่องมือค้นหาต่างๆ และจ่ายเมื่อมีคนคลิกที่โฆษณา
จะแสดงบน SERPs และบนเว็บไซต์อื่น ๆ เช่นกัน และผู้โฆษณาต้องจ่ายเงินจำนวนหนึ่งสำหรับการคลิกที่โฆษณาทุกครั้ง
ตารางเปรียบเทียบระหว่าง SEM และ PPC
พารามิเตอร์ของการเปรียบเทียบ | SEM | PPC |
วิธี | ใช้คำหลักที่ค้นหาบ่อยในเครื่องมือค้นหา | โฆษณาผลิตภัณฑ์หรือบริการในหน้าผลลัพธ์ของเครื่องมือค้นหาและเว็บไซต์ |
ความยาก | ต้องมีการวิจัยเกี่ยวกับคำหลักเป็นจำนวนมาก | ค่อนข้างง่ายกว่า SEM ในการรับปริมาณข้อมูล |
แสดงผล | ปรับปรุงการจัดอันดับของเว็บไซต์ใน SERP | ทำให้ผลิตภัณฑ์/บริการมองเห็นได้บน SERP ผ่านทางโฆษณา |
เวลา | ใช้เวลานานในการแสดงผล | แสดงผลได้เร็วกว่าเมื่อเทียบกับ SEM |
ความประทับใจ | นำทราฟฟิกอินทรีย์ที่ยาวนาน | นำการเข้าชมจนกว่าโฆษณาจะทำงาน |
ค่าใช้จ่าย | ค่าใช้จ่ายน้อยกว่า PPC | ค่าใช้จ่ายสูงกว่าเมื่อเทียบกับ SEM |
SEM คืออะไร?
SEM ย่อมาจาก Search Engine Marketing เป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญของการตลาดดิจิทัลออนไลน์ที่เพิ่มโอกาสให้ผู้คนค้นพบเว็บไซต์มากขึ้น ด้วยความช่วยเหลือของ SEM เราสามารถทำให้เว็บไซต์มีอันดับสูงขึ้นในหน้าผลลัพธ์ของเครื่องมือค้นหาหรือ SERP เราต้องอัปเดตด้วยการเปลี่ยนแปลงในอัลกอริทึมของเครื่องมือค้นหาต่างๆ ความนิยมของคำหลัก เพื่อสร้างเนื้อหาที่ดีด้วยกลยุทธ์ SEM ที่แข็งแกร่ง
SEM ใช้เครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพกลไกค้นหาเป็นหลัก ซึ่งปรับเนื้อหาของเว็บไซต์โดยใช้คำสำคัญที่เกี่ยวข้อง เพื่อที่ว่าหากมีผู้ค้นหาคำหลักนั้นในเครื่องมือค้นหา พวกเขาจะพบเว็บไซต์ได้ง่าย
มีหลากหลายแพลตฟอร์มที่สามารถติดตามความนิยมของคำหลักหรือวลีสำคัญได้ ตัวอย่างเช่น เครื่องมือวางแผนคำหลักของ Google, Moz Keyphrase Explorer เป็นต้น SEM เป็นเครื่องมือที่ประหยัดต้นทุนในการดึงดูดการเข้าชมแบบออร์แกนิก แต่ต้องมีการวิจัยเป็นจำนวนมาก อาจส่งผลไม่ดีต่อผลลัพธ์ของเครื่องมือค้นหาหากทำไม่ถูกต้อง
PPC คืออะไร?
PPC ย่อมาจาก Pay Per Click หรือที่เรียกว่า CPC หรือ Cost Per Click อีกครั้งเป็นเครื่องมือสำคัญของการตลาดดิจิทัลที่ใช้เพื่อดึงดูดลูกค้าให้มาที่เว็บไซต์มากขึ้น PPC เป็นรูปแบบการโฆษณาซึ่งแสดงโฆษณาบน SERP และเว็บไซต์ ที่นี่ ผู้โฆษณาต้องจ่ายเงินจำนวนหนึ่งทุกครั้งที่มีคนคลิกโฆษณาและไปที่เว็บไซต์ของตน โดยพื้นฐานแล้ว PPC เป็นวิธีการซื้อการเข้าชมเว็บไซต์ของลูกค้ามากกว่าการหารายได้แบบออร์แกนิก แพลตฟอร์มโฆษณาที่มีชื่อเสียงที่สุดคือ Google Ads Bing Ads และ Yahoo Search Ads ก็ค่อนข้างเป็นที่นิยมเช่นกัน
จำนวนเงินที่นักการตลาดหรือผู้โฆษณาต้องจ่ายให้กับเว็บไซต์โฮสต์หรือ SERP ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ตัวอย่างเช่น ความนิยมของคำหลักที่กำลังโฆษณา คุณภาพของโฆษณา การเสนอราคา ฯลฯ ผู้เสนอราคาสูงสุดสำหรับ PPC จะได้รับการจัดอันดับที่ด้านบนของรายการเครื่องมือค้นหา
โดยส่วนใหญ่ PPC ต้องการเงินจำนวนมากในการแสดงโฆษณาเพื่อให้ได้รับการมองเห็นและการแสดงผลมากขึ้น ดังนั้นจึงอาจไม่ใช่วิธีที่เหมาะสมหรือสะดวกสำหรับผู้จัดทำงบประมาณรายย่อย มีความเป็นไปได้ที่มือใหม่จะใช้ SEM เพื่อรับการเข้าชมเป็นอันดับแรก และค่อยๆ รวม PPC ไว้ในกลยุทธ์ทางการตลาดของตน
ความแตกต่างหลักระหว่าง SEM และ PPC
บทสรุป
SEO และ PPC เป็นสองรูปแบบที่สำคัญของการตลาดออนไลน์ สิ่งเหล่านี้ช่วยให้ธุรกิจได้รับการเปิดเผยจำนวนมากโดยการจัดอันดับที่สูงขึ้นในเครื่องมือค้นหาและการแสดงต่อผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าผ่านโฆษณา เมื่อเปรียบเทียบทั้งสองวิธี SEM เป็นวิธีที่ประหยัดต้นทุนซึ่งให้ปริมาณการใช้งานที่ยาวนานตามธรรมชาติ แต่ใช้เวลานานกว่ากว่าจะสำเร็จ ผลลัพธ์และ PPC เป็นวิธีที่ง่ายกว่าและเร็วกว่าในการรับปริมาณข้อมูล แต่ต้องใช้เงินมากขึ้น
ดังนั้น หากใครพร้อมที่จะอดทนสำหรับการเข้าชมที่เข้ามาในเว็บไซต์หรือแอปของเขา เขาก็สามารถเลือกใช้ SEM และหากเขามีงบประมาณที่ดีและต้องการการเข้าชมในเวลาไม่นาน PPC ก็เป็นตัวเลือกที่ดีกว่า กลยุทธ์ทางการตลาดที่ดีเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการต้อนรับผลกำไรส่วนเกิน