คำว่า 'Shall' และ 'Should' มีความเกี่ยวข้องกันเพราะคำว่า 'Should' เป็นอดีตกาลของ 'Shall' แต่ไม่สามารถใช้แทนกันได้ เนื่องจากความหมายเปลี่ยนไปตามโครงสร้างประโยค
จะ vs ควร
ความแตกต่างระหว่าง Shall กับ Should คือเหตุการณ์แรกบอกเราว่าเหตุการณ์กำลังจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ในขณะที่เหตุการณ์หลังๆ นี้เป็นเพียงการยืนยันกับเราว่าเหตุการณ์นั้นอาจเกิดขึ้น
คำว่า 'จะ' ใช้เมื่อประโยคทั่วไปต้องการสื่อถึงบางสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต คำนี้ใช้แทนคำว่า 'จะ'
คำว่า 'ควร' เป็นคำปรึกษามากกว่า และมักสื่อถึงบางสิ่งหรือเหตุการณ์ที่ต้องเกิดขึ้นหรือได้เกิดขึ้นแล้ว
ตารางเปรียบเทียบระหว่างควรและควร (ในรูปแบบตาราง)
พารามิเตอร์ของการเปรียบเทียบ | จะ | ควร |
---|---|---|
ที่มา | พบในภาษาอังกฤษโบราณ ใช้อย่างถูกต้องในศตวรรษที่ 17 และต่อมาได้กลายเป็นคำแทนคำว่า 'Will' | พบในภาษาอังกฤษยุคกลางเนื่องจากคำแนะนำในการใช้คำมาภายหลังศตวรรษที่ 17 |
รูปแบบไวยากรณ์ | คำนี้เป็นกริยาช่วยที่มาพร้อมกับคำสรรพนามบุรุษที่สองและบุคคลที่สามและสร้างกาลในอนาคต | เป็นกริยาช่วยที่เป็นกิริยาช่วย โครงสร้างพื้นฐานเขียนว่า “ประธาน + กริยาช่วย + กริยาหลัก” |
วัตถุประสงค์ | ใช้เพื่อแสดงความคิดและกฎเกณฑ์ต่างๆ และเมื่อผู้พูดต้องการจะสื่อถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต | ใช้เพื่อให้คำแนะนำหรือแนะนำบางสิ่งบางอย่าง สามารถใช้แสดงความคิดเห็นหรือความปรารถนาส่วนตัวได้ |
ตัวอย่าง | “ดูราวีเรียนหนักแค่ไหน ฉันรู้ว่าวันหนึ่งเขาจะทำให้ครอบครัวนี้ภูมิใจ” | “แทนที่จะจิ้มไปที่แผล คุณควรทาครีมและผ้าพันแผล” |
รูปแบบความตึงเครียดและการเขียน | ใช้ในการเขียนเป็นทางการและแสดงกาลอนาคต | ใช้ในการเขียนแบบไม่เป็นทางการเป็นหลัก และเป็นอดีตกาลของ 'Shall' |
ควรใช้เมื่อใด
คำนี้ถูกใช้ครั้งแรกในภาษาอังกฤษแบบเก่าว่า 'shal' และต่อมาในปี 17ไทย ศตวรรษด้วยความช่วยเหลือของมัคคุเทศก์ที่ตั้งขึ้นใหม่ 'shall' กลายเป็นคำที่ใช้แทนคำว่า 'Will' ที่มาพร้อมกับสรรพนามบุรุษที่หนึ่ง สอง และบุคคลที่สาม
คำว่า 'จะ' เป็นกริยาช่วยซึ่งมีจุดประสงค์แตกต่างกันไปตามโครงสร้างของประโยคหรือวลีที่ใช้ โดยทั่วไป คุณจะเห็นคำที่ใช้ในการเขียนอย่างเป็นทางการและสนับสนุนคำและประโยคที่ใช้ในอนาคต
วิธีหนึ่งที่ 'จะ' เกิดขึ้นในประโยคเป็นคำสรรพนามบุรุษที่หนึ่งคือการใช้แนวทางดั้งเดิมในการเสนอความคิดเห็นในรูปแบบกาลอนาคต
ตัวอย่าง -
เมื่อใช้ในรูปแบบบุคคลที่สามและบุคคลที่สาม 'จะ' ใช้เพื่อเสนอมุมมองและความคิดเห็นที่กำหนดขึ้นเอง ที่นี่เราเห็นความรุนแรงมากขึ้นในวลี
ตัวอย่าง -
คำว่า "จะต้อง" สามารถใช้เพื่อแสดงกฎเกณฑ์และกฎหมายที่นิติบุคคลระบุไว้
ควรใช้เมื่อใด
คำนี้มีต้นกำเนิดในสมัยภาษาอังกฤษยุคกลางและได้รับการขัดเกลาในลักษณะที่ใช้ แม้ว่าจะเป็นรูปแบบอดีตกาลของ 'จะ' แต่ส่วนใหญ่เราไม่สามารถใช้มันแทน 'จะ' หรือแม้กระทั่งเพื่อถ่ายทอดบริบทเดียวกันในอดีตกาล
‘Should’ เป็นกริยาช่วยที่เป็นกิริยาช่วย และใช้ในรูปแบบเฉพาะคือ – “ประธาน + กริยาช่วย (ควร) + กริยาหลัก”
คำนี้ใช้เพื่อแนะนำหรือเสนอแนะความคิดเห็น ส่วนใหญ่ในลักษณะที่ไม่เป็นทางการ เช่น ความคิดเห็นส่วนตัว 'ควร' เป็นคำแนะนำมากกว่าในบริบทส่วนใหญ่
ตัวอย่าง -
คำว่า "ควร" ยังใช้เพื่อแสดงว่ามีบางสิ่งที่คาดหวังหรือมีแนวโน้มว่าจะเกิดขึ้น (ภายในระยะเวลาที่กำหนด)
ตัวอย่าง -
ความแตกต่างหลักระหว่างควรและควร
บทสรุป
คำว่า 'Shall' และ 'Should' เป็นเพียงคำเดียวกันแต่ในกาลต่างกัน 'Shall' อยู่ในกาลอนาคต ในขณะที่ 'Should' จะอยู่ในอดีตกาล แต่เพียงเพราะความแตกต่างในแง่ของความตึงเครียด ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาสามารถแทนที่กันและกันในประโยคได้
คำสองคำนี้แตกต่างกันในแง่ของบริบทที่ใช้ 'Shall' ใช้ในลักษณะที่เป็นทางการมากขึ้นเพื่อถ่ายทอดจุดที่กำหนด 'Should ใช้ในวลี ประโยค และการสนทนาที่ไม่เป็นทางการ ส่วนใหญ่ใช้เพื่อให้คำแนะนำและแสดงความคิดเห็นส่วนตัว คำสองคำนี้จึงไม่มีอะไรเหมือนกันเมื่อพูดถึงความหมายที่แท้จริงของพวกเขา