'ต้อง' และ 'ควร' เป็นคำที่ใช้เน้นประโยคหรือทำให้ฟังดูสำคัญในทางกฎหมายและเป็นทางการตามลำดับ คำเหล่านี้มีความแตกต่างกันเล็กน้อย เมื่อใดก็ตามที่บุคคลต้องการพูดคุยเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของเหตุการณ์ สามารถใช้ทั้ง 'ต้อง' และ 'ควร' ได้ แต่ขึ้นอยู่กับว่าผู้พูดมีความมั่นใจแค่ไหนเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ต้อง vs ควรจะ
ความแตกต่างระหว่าง 'ต้อง' และ 'ควร' คือ 'ต้อง' แสดงถึงเมื่อภาระผูกพันภายนอกหรือหน้าที่ในขณะที่ 'ควร' หมายถึงภาระผูกพันทางศีลธรรม เน้นที่ 'ต้อง' สูงกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับ 'ควร' 'Must' เป็นกริยาช่วย กริยาช่วยใช้เพื่อแสดงกิริยา 'Must' สามารถอ้างถึงอดีตกาลเมื่อมันถูกใช้กับกริยาที่สมบูรณ์แบบของกริยาหลัก 'ต้อง' ทำให้ประโยคบังคับ 'Ougt To' เป็นกริยากึ่งโมดอล การใช้ 'Ougt To' ทำให้ประโยคดูมีพลังน้อยลง 'ต้อง' เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดเมื่อเทียบกับ 'ควร' คำว่า 'ควร' ไม่ได้บังคับเหมือน 'ต้อง'
'Must' ใช้เพื่อแสดงความต้องการชั่วโมง มันทำให้ประโยคเป็นทางการและถูกกฎหมาย ระดับการเน้นจะสูงสุดเมื่อใช้คำว่า "ต้อง" ในประโยค 'ต้อง' ใช้เมื่อเหตุการณ์มีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้น 'Must' เป็นกริยาช่วย 'ต้อง' ใช้เมื่อความน่าจะเป็นที่จะเกิดขึ้นหากเหตุการณ์นั้นสูงขึ้น 'ต้อง' มักจะเกี่ยวกับความแข็งแกร่งในประโยค
'Ougt To' เป็นกริยาช่วยชนิดหนึ่ง หมายถึงสิ่งที่ถูกต้องทางศีลธรรมในสถานการณ์เฉพาะ ส่วนใหญ่จะใช้เมื่อต้องการขอคำแนะนำหรือแนะนำบางสิ่งบางอย่างให้กับใครบางคน มันหมายถึงความจริงวัตถุประสงค์ 'Ougt To' ไม่มีรูปแบบที่ผ่านมา มักใช้ในคำถามและเชิงลบ 'Ougt To' เป็นกริยากึ่งคำกริยา 'Ougt To' ใช้เมื่อเหตุการณ์อาจเกิดขึ้นหรือไม่เกิดขึ้นก็ได้
ตารางเปรียบเทียบระหว่างสิ่งที่จำเป็นกับสิ่งที่ควรทำ
พารามิเตอร์ของการเปรียบเทียบ | ต้อง | ควรจะ |
ความหมาย | ใช้เพื่อแสดงความจำเป็น | ใช้เพื่อแสดงพันธะทางศีลธรรม |
ธรรมชาติ | ถูกกฎหมาย | เป็นทางการ |
องศาของการเน้น | สูงสุด | ค่อนข้างสูง |
ความน่าจะเป็นของเหตุการณ์ | สูง | อาจจะหรือไม่เกิดขึ้นก็ได้ |
โทน | ทรงพลัง | แรงน้อย |
ชนิดของคำกริยา | คำกริยาคำกริยา | กริยากึ่งโมดอล |
ต้องคืออะไร?
'ต้อง' ใช้เพื่อแสดงภาระหน้าที่ หรือการบังคับ 'ต้อง' ไม่เปลี่ยนรูปแบบด้วยกาล ตัวเลข หรือบุคคลของเรื่อง
'ต้อง' เป็นกริยาช่วย โดยเน้นถึงความสำคัญหรือความต้องการของบางสิ่งบางอย่างในสถานการณ์เฉพาะ 'ต้อง' หมายถึงความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าเสมอ การใช้ 'Must' แสดงว่าผู้พูดมั่นใจว่าประธานจะดำเนินการภาคแสดง
มันใช้เพื่อแสดงความจำเป็น
ตัวอย่างคือ:
เราต้องตื่นแต่เช้า
ใช้เพื่อแสดงความน่าจะเป็นเชิงตรรกะ หรือความน่าจะเป็นค่อนข้างสูง
ตัวอย่างคือ:
น่าจะเป็นบุรุษไปรษณีย์
ใช้เพื่อบ่งบอกถึงข้อห้าม
ตัวอย่างคือ:
ห้ามพูดในห้องสมุด
ใช้ในประโยคอุทาน
ตัวอย่างคือ:
คุณต้องล้อเล่น!
ใช้เพื่อแนะนำบางสิ่งบางอย่างหรือแนะนำบางสิ่งบางอย่าง
เมื่อใดก็ตามที่มีความจำเป็นสำหรับการเน้นย้ำและระดับการเน้นย้ำอยู่ในระดับสูง 'ต้อง' จะใช้ในประโยคเสมอ
ใช้ในข้อกำหนดคำสั่ง
ตัวอย่างคือ:
ต้องหมุนที่จับประตูจนสุด
ใช้สำหรับสร้างประโยคความจำเป็น
ตัวอย่างคือ:
คุณต้องมาถึงชั้นเรียนตรงเวลา
สิ่งที่ควร?
'Ougt To' นั้นแตกต่างจากกริยาช่วยอื่น ๆ ซึ่งตามด้วย to-infinitive 'ควร' โดยทั่วไปจะชี้เวลาปัจจุบันและอนาคต มันสามารถอ้างถึงเวลาที่ผ่านมาเมื่อตามด้วย infinitive ที่สมบูรณ์แบบ (มี + กริยาที่ผ่านมา)
ใช้เพื่อระบุว่าเมื่อใดมีความจำเป็นและถูกต้องที่ต้องทำ อ้างถึงโดยกริยาที่ประสบความสำเร็จ
ตัวอย่างคือ:
นักเรียนควรมาโรงเรียนตรงต่อเวลา
ใช้เพื่อระบุความน่าจะเป็นของบางสิ่งที่อาจเกิดขึ้น
ตัวอย่างคือ:
การสัมมนาควรเพิ่มการรับรู้
ใช้เพื่อหารือเกี่ยวกับสิ่งเหล่านั้นที่ยาวสำหรับหรือในอุดมคติ
ตัวอย่างคือ:
รัฐบาลควรสร้างกฎจราจรให้ดีขึ้น
ใช้สำหรับแสดงหน้าที่
ตัวอย่างคือ:
ความแตกต่างหลักระหว่างสิ่งที่จำเป็นและควร
บทสรุป
'ต้อง' และ 'ควร' เป็นทั้งคำกริยาช่วย ทั้งสองคำมีคุณสมบัติ การใช้ should และ must ขึ้นอยู่กับระดับการเน้นในประโยค โดยทั่วไปแล้ว 'Ougt To' จะใช้เพื่อแสดงภาระหน้าที่หรือหน้าที่ทางศีลธรรม การยอมรับควรทำให้ประโยคของคุณฟังดูเป็นทางการและต้องทำให้ประโยคของคุณถูกต้องตามกฎหมาย 'ต้อง' ยังคงแน่วแน่ไม่ว่าความตึงเครียด จำนวน หรือบุคคลของเรื่องจะเป็นอย่างไร 'Ougt To' ไม่เคยฟังดูแข็งแกร่งเหมือน 'ต้อง'
การใช้คำเหล่านี้ควรทำอย่างเหมาะสม ไม่เช่นนั้นอาจส่งผลต่อการสนทนา ความเครียดจะสูงที่สุดเมื่อใช้ต้องใช้ในประโยค 'ต้อง' มุ่งเน้นไปที่ความจำเป็นของเหตุการณ์และ 'ควรจะ' ใช้เพื่ออ้างถึงภาระผูกพันหรือหน้าที่ทางศีลธรรม การใช้คำเหล่านี้ในทางปฏิบัติจะต้องกระทำในลักษณะที่มีความรับผิดชอบสูง มิฉะนั้น ความหมายของประโยคที่สมบูรณ์สามารถเปลี่ยนแปลงได้